Korkankru

โรงเรียนปล่อยแสง

การอ่านเปลี่ยนโลก

แม้จะผ่านพ้นสถานการณ์โควิด-19 ที่เด็กต้องกักตัวเรียนหนังสืออยู่บ้านมาได้หลายปีแล้ว แต่ผลกระทบจากช่วง 2 ปีนั้นยังไม่หายไปไหน คุณครูจากโครงการโรงเรียนปล่อยแสงหลายคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า หลังกลับมาเรียนที่โรงเรียนอีกครั้ง เด็กหลายคนมีปัญหาเรื่องการอ่านเขียน หลายคนมีพัฒนาการล่าช้า และหลายคนไม่สนใจการเรียนรู้เหมือนเดิมเราจึงมาคุยกับพี่เจ-สุดใจ พรหมเกิด ประธานมูลนิธิสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน เพื่อหาคำตอบว่าผลกระทบที่สถานการณ์โควิด-19 เหลือทิ้งไว้ให้แก่เด็กนั้นร้ายแรงมากน้อยแค่ไหน และการอ่านจะช่วยฟื้นคืนการเรียนรู้ที่หล่นหายไปได้อย่างไร 2 ปีที่หล่นหาย จากเด็กที่เคยเรียนอยู่ชั้นอนุบาล 1 ต้องกักตัวอยู่ที่บ้าน 2...

ชวนเด็กให้อ่านได้ และเขียนดี ไม่ใช่เรื่องยาก

เมื่อการอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ของเด็กกลายเป็นปัญหาใหญ่สำหรับคุณครูในยุคหลังโควิด-19 โครงการโรงเรียนปล่อยแสงจึงร่วมกับมูลนิธิสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน ชวนคุณครูมาเรียนรู้ร่วมกับวิทยากรด้านการอ่านเขียนที่มีชื่อเสียงสองท่าน ว่ากิจกรรมแบบไหนที่จะทำให้การฝึกอ่านฝึกเขียนกลายเป็นเรื่องสนุก และฟื้นทักษะทางภาษาที่หล่นหายไป เพื่อให้เด็กกลับมาตามทันพัฒนาการที่ควรจะเป็นได้ในเร็ววัน  ครูอ่านให้ฟัง เด็กก็อ่านได้  “ปกติการสอนของคุณครูจะตั้งเป้าไว้เลยว่าจะสอนอะไรให้แก่เด็ก แล้วครูก็เลือกหนังสือที่ถูกใจครู มาเล่าให้เขาฟัง แต่ช่วงเวลาแห่งการอ่านก็ควรจะสนุกสำหรับเด็กสิ  วันนี้เราเลยเริ่มจากชวนให้คุณครูคิดว่า เด็กชอบอะไร แล้วจะเลือกหนังสือที่ตรงกับความชอบของเขาได้ไหม” ครู “แต้ว” ระพีพรรณ พัฒนาเวช นักเขียนนิทานเด็ก วิทยากรของโครงการเล่าว่า...

การศึกษาไทยไม่ไร้ความหวัง

จะดีแค่ไหนหากเมื่อเราหมดไฟแล้วยังมี “พื้นที่” เยียวยาเติมพลัง มีผองเพื่อนผู้ประสบชะตากรรมเดียวกันคอยหนุนเสริมเพิ่มกำลังใจ มีชุมชนที่ช่วยให้เราเริ่มต้นและร่วมสร้างความเป็นไปได้ใหม่ๆ ร่วมกัน  โครงการโรงเรียนปล่อยแสงกำลังทำหน้าที่เป็นพื้นที่นั้น ให้กับครู ผู้อำนวยการโรงเรียน และโรงเรียนหลากหลาย เพื่อร่วมกันสร้างภาพฝันของระบบการศึกษาที่ดีให้กลายเป็นจริง  บนถนนสู่การเปลี่ยนแปลงที่เคลื่อนไปอย่างช้าๆ ขอชวนทุกคนมาอ่านมุมมองและความหวังของทีมบริหารโครงการโรงเรียนปล่อยแสง ผู้อยู่เบื้องหลังการขับเคลื่อนระบบนิเวศของโรงเรียนและระบบการศึกษาไปพร้อมกัน  รศ.ดร. อนุชาติ พวงสำลี, ผศ.ดร. อดิศร จันทรสุข, อาจารย์อธิษฐาน์...

ความท้าทายและการไปให้ถึงจุดหมายของ “โรงเรียนปล่อยแสง”

โครงการโรงเรียนปล่อยแสงมีเป้าหมายหลัก คือการสร้างนิเวศการเรียนรู้ที่มีความสุขและเปี่ยมความหมาย         ผ่านการทำงานร่วมกันระหว่างครูและผู้บริหารโรงเรียน            อาจารย์อธิษฐาน์ คงทรัพย์ ผู้อำนวยการโครงการโรงเรียนปล่อยแสง เล่าถึง 3 ความท้าทายที่โครงการฯ พยายามชี้ชวนให้ “ครูแกนนำ” และ “ครูก่อการใหญ่” หรือบรรดาครูและผู้บริหารโรงเรียนที่เข้าร่วมมองเห็นและขับเคลื่อนร่วมกัน คือ       ...

คืนอำนาจการเรียนรู้ให้เยาวชน บ่มเพาะทักษะจำเป็นนอกตำราเรียน

เมื่อต้นปี 2567 สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) ได้ติดตามสถานการณ์การจ้างงานในประเทศไทย โดยใช้ Big Data และการวิเคราะห์ด้วยปัญญาประดิษฐ์ (AI) พบว่า Soft Skill เป็น 6 ใน 10 ทักษะที่นายจ้างต้องการมากที่สุด ผลการศึกษานี้สอดคล้องกับแนวโน้มการจ้างงานทั่วโลก ซึ่งทักษะการทำงานนอกเหนือจากความรู้เฉพาะวิชาชีพมีความจำเป็นสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เมื่อหันกลับมาที่ระบบการศึกษาไทยซึ่งทำหน้าที่เตรียมความพร้อมด้านทรัพยากรมนุษย์...

พลังมหัศจรรย์การอ่าน เยียวยาภาวะการเรียนรู้ถดถอย

ระดับการเรียนรู้ของเด็กไทยภายหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 เมื่อพิจารณาจากผลการประเมินสมรรถนะนักเรียนมาตรฐานสากล (PISA) พบว่ามีคะแนนต่ำสุดในรอบ 20 ปี ทั้งทักษะการอ่าน คณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ โดยอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยประเทศอื่น หากเปรียบเทียบให้เข้าใจง่ายขึ้นก็คือ ความรู้ความสามารถของเด็กไทย ชั้น ม.3 อาจเทียบเท่ากับนักเรียนชั้น ม.2 ของบางประเทศ หรือความรู้ถดถอยหายไป 1 ปีการศึกษา ธนาคารโลกได้ส่งสัญญาณเตือนว่า...

‘ปล่อยเด็กเปล่งแสง’ สร้างสรรค์ระบบนิเวศการเรียนรู้ กอบกู้สายสัมพันธ์ในโรงเรียน

“อยากให้มีการสอนแบบปฏิบัติมากกว่าครูพูดให้ฟังในคาบ” “เด็กทุกคนควรได้เป็นตัวเองและมีความมั่นใจ ไม่ควรมีใครมาลดคุณค่าของเด็ก” “สนับสนุนให้เด็กได้เรียนในสิ่งที่ชอบ และเดินตามความฝันที่สวยงามของทุกคน” ข้อความเหล่านี้คือเสียงสะท้อนของนักเรียนจำนวนหนึ่งต่อระบบการศึกษา ที่พวกเขามองว่าอาจยังไม่ใช่ ไม่ชอบ ไม่ตอบโจทย์ในสิ่งที่อยากเป็น แล้วการศึกษาหน้าตาแบบไหนที่จะช่วยให้เยาวชนไม่ต้องทนทุกข์ แต่เกิดการเรียนรู้ที่มี ‘ความสุข’ และมี ‘ความหมาย’ คำตอบดังกล่าวปรากฏขึ้นอย่างมีชีวิตชีวาในเวที ‘ปล่อยเด็กเปล่งแสง’ ซึ่งจัดโดย คณะวิทยาการเรียนรู้และศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เมื่อวันที่ 2...

เส้นทางลัดเพื่อพัฒนาระบบการศึกษามีจริง หรือเป็นเพียงฝันลมๆ แล้งๆ ที่ผู้คนจินตนาการถึง ?

การศึกษาในศตวรรษที่ 21 ควรมีหน้าตาอย่างไร? เราอาจหาคำตอบได้จากแนวคิดของฟินแลนด์ สวิตเซอร์แลนด์ เบลเยียม สิงคโปร์ และอีกหลายสิบประเทศทั่วโลกที่จัดอันดับให้อยู่ก่อนหน้าประเทศเรา ทว่าหลักคิดใดเล่าที่เข้ากับบริบทของระบบการศึกษาไทยได้ดีในภาคปฏิบัติ วิธีใดเล่าจะแก้ไขทุกปัญหาในจักรวาลการศึกษาไทยได้ สูตรลัดพัฒนาระบบการศึกษาไทยมีจริงหรือไม่ ปัญหาของครู โรงเรียน และระบบการศึกษาไทยอยู่ตรงไหนกันแน่ อาจารย์อนุชาติ พวงสำลี หนึ่งในทีมบริหารโครงการโรงเรียนปล่อยแสง ฉายภาพเส้นทางการทำงานของโครงการฯ ว่าแบ่งเป็น 2 ส่วนสำคัญ...

อัปเลเวลครูให้ทะลุข้อจำกัด ด้วยเครื่องมือพัฒนาการสอนใหม่ๆ ในตลาดวิชาที่ครูเลือกได้

ตลาดวิชาเป็นโมดูล 2 ที่โครงการโรงเรียนปล่อยแสงออกแบบไว้ในหลักสูตร เพราะหลังจากครูได้ผ่านการเยียวยา ฟื้นฟูพลังใจและความเชื่อมั่นในตัวเองจากโมดูล 1 “ครูคือมนุษย์” และยังขยายความเป็นไปได้ของการเรียนการสอนผ่านโมดูล “ครูคือกระบวนกร” แล้ว ครูก็อาจต้องการเครื่องมือใหม่ๆ ที่มีประสิทธิภาพกว่าที่เคยรู้เคยใช้มาเดิมๆ เพื่อพลิกโฉมห้องเรียนตนเองให้เข้าสู่บรรยากาศแห่งการเรียนรู้ แต่ความท้าทายคือครูแต่ละคน โรงเรียนแต่ละแห่ง ก็อาจมีโจทย์ที่ต้องการเครื่องมือแตกต่างกันไป โครงการโรงเรียนปล่อยแสงจึงใช้แนวคิดออกแบบหลักสูตรการเสริมสร้างศักยภาพในลักษณะ “ตลาดวิชา” เปิดให้ครูมองเห็นเครื่องมือหลากหลายที่อาจจุดประกายความคิด และตัดสินใจเลือกเข้าเรียนวิชาต่างๆ ที่ตนเองสนใจได้อิสระ...

ฟังอารมณ์ ถามความรู้สึก ทักษะการโค้ชเพื่อดูแลใจผู้เรียน โรงเรียนสุจิปุลิ

ปัญหาที่เด็กประสบพบเจอนั้นมีมากมาย ทะเลาะกับเพื่อนกับแฟน พ่อแม่หย่าร้าง ไม่มีเงินมาโรงเรียน หรือเรียนได้ไม่ดี บางครั้งก็ไม่ใช่แค่เรื่องวิชาการหรือสมอง แต่มีมิติด้านจิตวิทยาแฝงอยู่ ผู้เรียนอาจรู้สึกด้อย เปรียบเทียบตนเองกับคนอื่นตลอดตัวเอง มองไม่เห็นศักยภาพที่ตนมี หลากหลายและกว้างใหญ่กว่าเนื้อหาที่ครูสอน คือชีวิตจริงในทุกวันของผู้เรียน  ทำอย่างไรครูจะเท่าทันและมองเห็นมิติต่างๆ ในชีวิตของผู้เรียนได้มากขึ้น  เพื่อตอบคำถามนี้ โครงการโรงเรียนปล่อยแสงชวนอาจารย์ “เปิ้ล” - อธิษฐาน์ คงทรัพย์ และอาจารย์...