ก่อการครู – Korkankru

การศึกษาไทย

เมื่อการสอนไม่เพียงพอ ถึงเวลาครูข้ามขอบ ข้ามขอบฟ้าไปเป็นกระบวนกร

จุดมุ่งหวังของโครงการห้องเรียนข้ามขอบการพัฒนา ‘นวัตกรรมทางการศึกษารูปแบบใหม่’ ที่มุ่งสร้างระบบนิเวศการเรียนและการศึกษาที่ยืดหยุ่น ‘ครู’ จึงเป็นหนึ่งในฟันเฟืองสำคัญที่ขาดไปไม่ได้ ยิ่งครูเต็มเปี่ยมไปด้วยศักยภาพในการจัดการเรียนรู้มากเท่าไหร่ เด็กก็จะสามารถข้ามขอบไปได้ไกล มากไปกว่าครูในระบบ ห้องเรียนข้ามขอบยังขยับชักชวนเหล่าผู้สร้างการเรียนรู้และสถานีการเรียนรู้ เข้ามาร่วมขบวนข้ามขอบสร้างการเรียนรู้แบบใหม่ไปพร้อมๆ กัน ด้วยความพยายามก้าวเล็กๆ แต่ต่อเนื่องจาก ‘เชียงดาวเมืองแห่งการเรียนรู้’ สิ่งที่เป็นผลสืบเนื่องต่อยอดกันมาคือการที่เหล่าสถานีการเรียนรู้พร้อมที่จะขยับต่อไปด้วยกันอย่างแข็งแรง บทบาทของครูในพื้นที่การเรียนรู้ แค่การ ‘สอน’ ไม่เพียงพออีกต่อไป ‘บอกวิชาความรู้ให้ (กริยา)’...

พลังของพื้นที่เรียนรู้คู่ขนานกับการศึกษาในระบบ: เพราะทุกคนต่างมีบทบาทต่อการศึกษา

‘มนุษย์เด็ก’ ในสถานการณ์โลกที่ผันผวน โรคระบาด โลกรวนรุนแรง เรียกร้องให้เขาต้องปรับตัว ค่าครองชีพสูง สวนทางกับเศรษฐกิจทางบ้านที่ไม่สู้ดี ตัวเร่งที่ทำให้ตัดสินใจว่าอยาก ‘อยู่ต่อ’ หรือ ‘พอแค่นี้’ กับระบบการศึกษา ทุนนิยมเร่งเร้า โซเชียลมีเดียประชิดตัว เครื่องมือปลูกฝังค่านิยมชั้นดีที่เด็กในครอบครัวห่างเหินไม่มีคนสร้างการเรียนรู้พร้อมเชื่อและทำตาม ท่ามกลางความซับซ้อนและปั่นป่วนเหล่านี้ การที่มนุษย์เด็กเดินเข้าสู่รั้วโรงเรียน ใช้เวลาจากวัยเด็กสู่วัยรุ่นเพื่อหวังเติบโต แข็งแกร่ง มีเกราะกำบังต่อโลกจากการเรียนตามหลักสูตรแกนกลาง จึงเป็นเรื่องที่มองอย่างไรก็เป็นไปได้ยาก...

นโยบายเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนการศึกษาไทยไปสู่จุดหมาย

‘มหกรรมการศึกษา นิเวศการเรียนรู้ สู่การเปลี่ยนแปลงที่เป็นไปได้’ ณ โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้จัดเสวนาในหัวข้อ “ร่วมขับเคลื่อนการศึกษาไทยสู่ความเป็นไปได้ใหม่” ชวนสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พัฒนะพงษ์ สุขมะดัน ผู้ช่วยผู้จัดการกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) และสราวุฒิ อยู่วิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มธุรกิจทีซีพี (TCP)...

การศึกษานั้นไม่ได้แย่ และมีความเป็นไปได้ใหม่

โครงการโรงเรียนปล่อยแสง พัฒนานิเวศการเรียนรู้ โดยคณะวิทยาการเรียนรู้และศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ร่วมกับ กลุ่มธุรกิจทีซีพี จัดงาน ‘มหกรรมการศึกษา นิเวศการเรียนรู้ สู่การเปลี่ยนแปลงที่เป็นไปได้’ ชวนผู้อำนวยการ ครู และนักเรียนจากโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการมาร่วมกันส่งต่อพลังและจุดประกายว่า ความเป็นไปได้ใหม่ของการศึกษา จากความรู้ที่โครงการได้ทดลองพัฒนากับโรงเรียนมาเป็นเวลาสามปีคืออะไร หากอยากเห็นเด็กๆ ได้เรียนรู้อย่างมีความสุขและมีความหมาย โรงเรียนต้องจัดและปรับอย่างไร  กิจกรรมภายในงานต้อนรับผู้คนในวงการการศึกษาและผู้ที่สนใจ มีทั้งนิทรรศการเกี่ยวกับโครงการ นิทรรศการรูปธรรมนิเวศการเรียนรู้จากโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการ...

การคัดเลือก ‘รอบพอร์ต’ กับปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- Highlight : พอร์ตฟอลิโอ (Portfolio) เป็นเครื่องมือสะท้อนเส้นทางการเรียนรู้ ความสนใจผ่านกิจกรรมที่เข้าร่วม ความโดดเด่นและความเป็นเลิศของนักเรียน เพื่อพิจารณาด้านอื่น ๆ นอกเหนือการสอบวัดผลเกิดเป็นช่องว่างขนาดใหญ่ในระบบการคัดเลือก เพราะความเป็นเลิศในด้านต่าง ๆ ต้องอาศัยการสนับสนุนทั้งเวลา ทุนทรัพย์ จากครอบครัวอย่างต่อเนื่อง นำไปสู่ “ธุรกิจการปั้นพอร์ต” เพื่อเป็นผลงานประกอบการเข้าเรียนประตูสู่การศึกษาบานใหญ่กลายเป็นด่านคัดกรอง ตรวจสอบความพร้อม ที่พิจารณาเพียงความสามารถ...

ไม่มี one size fits all สำหรับการพัฒนาการศึกษาไทย จากเลนส์นักกระบวนกร
กับการพัฒนาโมเดลต้นแบบโรงเรียนปล่อยแสง

ลองจินตนาการถึงระบบการศึกษาไทยที่เปิดกว้างและมีหลักสูตรการสอนหลากหลาย ผลผลิตที่ได้คงจะงดงามเหมือนดอกไม้หลากสี และประเทศไทยคงมีบุคลากรงอกงามในหลากหลายเส้นทางและความสามารถ แต่ในความจริงโรงเรียนและบุคลากรทั้งครูและนักเรียน มักต้องเดินบนเส้นทางที่ถูกตีกรอบไว้ทางเดียว จนไม่อาจจินตนาการถึงทุ่งดอกไม้ที่เต็มไปด้วยสีสัน เมื่อโครงการโรงเรียนปล่อยแสงที่มุ่งมั่นพัฒนาศักยภาพของครูและนิเวศการเรียนรู้ในทั้งหกโรงเรียนมาต่อเนื่องถึงปีที่ 3 จึงอยากเห็นโมเดลที่พัฒนาต่อไปให้แต่ละโรงเรียนงอกงามในแบบเฉพาะของตนเอง  “เป็นไปได้ไหมที่โครงการโรงเรียนปล่อยแสงจะสร้างโมเดลต้นแบบที่ช่วยพัฒนานิเวศการเรียนรู้ เรามีหกโรงเรียน ก็จะมีหกโมเดลต้นแบบที่ตอบโจทย์ต่างกัน อันนี้คือเป้าหมายระยะยาวโครงการ” “เกด”-ธุวรักษ์ ปัญญางาม ผู้ก่อตั้ง Insights for Change หนึ่งในกระบวนกรที่เข้ามาช่วยโครงการโรงเรียนปล่อยแสง บอกเล่าถึงการออกแบบกระบวนการในปีที่...

Eco school โรงเรียนตื่นรู้เชิงนิเวศน์ที่ศรีนครินทร์วิทยานุเคราะห์

“ครูนุ่น” ปฐมพร ปูรณัน และ “ครูนุช” นุชวรา ปูรณัน ผู้บริหารรุ่นสองของโรงเรียนศรีนครินทร์วิทยานุเคราะห์ อำเภอนาทวี จังหวัดสงขลา เติบโตมากับพ่อแม่ธนินทร์ ปูรณัน ผู้จัดการโรงเรียนและ ศันสนีย์ ปูรณัน ครูใหญ่ ผู้ทุ่มเทชีวิตให้กับการพัฒนาโรงเรียนมายาวนาน “ครูนุ่น” ปฐมพร ปูรณัน “ครูนุช”...

โรงเรียนปลอดขยะ จุดเริ่มต้นการสร้างจิตสำนึกสู่สังคม เพิ่มบรรยากาศการเรียนรู้ต่อนักเรียน

ก่อนเทอมสุดท้ายของภาคเรียนที่ 2 ปี 2566 จะปิดลง ในเวลาใกล้เลิกเรียนมีดอกอินทนิลสีม่วงจางคว้างกลีบไปมาเป็นฉากหลัง พร้อมกับบรรยากาศจอแจของเด็กนักเรียนด้านหน้าประตูทางออก ท่ามกลางแก้วน้ำพลาสติก ขวดน้ำ และเศษขยะยิบย่อยก็ปลิวเกลื่อนกระจัดกระจายทั่วถนน  ผลมาจากขยะของทุกคนในโรงเรียนคำแสนวิทยาสรรค์ที่ทิ้งมาแต่เช้าจรดค่ำจนล้นถัง “ตอนนั้นยังไม่ได้ย้ายมาบรรจุที่นี่แต่มีโอกาสเข้ามาคุมสอบ กศน. ที่โรงเรียนคำแสนฯ เราเห็นสภาพโรงเรียนมีแต่ขยะ เอ๊ะทำไมอะไรกันนักหนาเรียกว่าสกปรกเลยว่าได้” ครูปิ๋ว-อุไรวรรณ บุญเต็ม ครูชำนาญการพิเศษ ที่เล่าถึงสภาพแวดล้อมเมื่อหลายสิบปีก่อน  ร่องรอยในอดีตนั้นยังหลงเหลือตกค้างมาถึงปัจจุบันอยู่บ้าง...

โรงเรียนที่เด็กสบายใจ ด้วยความเชื่อมั่นและคำพูดอ่อนโยน โรงเรียนศรีนครินทร์วิทยานุเคราะห์

โรงเรียนศรีนครินทร์วิทยานุเคราะห์ เป็นโรงเรียนเอกชนในจังหวัดสงขลาที่มีห้องเรียนทางเลือกหลากหลาย ทั้งห้องเรียนมอนเตสซอรี ซึ่งเด็กจะได้เรียนแบบบูรณาการคละวิชาและระดับชั้น ห้องเรียนภาษาที่ได้เรียนทั้งภาษาที่ 2 และ 3 กับครูเจ้าของภาษาโดยตรง หรือแม้แต่ห้องเรียนหลักสูตรธรรมดาก็ยังเน้นการเรียนแบบ Open Approach ที่ให้เด็กเลือกทำโปรเจกต์ของตัวเองควบคู่ไปกับกิจกรรมพิเศษ ซึ่งเกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมและองค์ความรู้ของชุมชน การพาเด็กไปทำกิจกรรมมากมายขนาดนี้ คุณครูจะต้องมีทั้งความเป็นนักกระบวนกรคอยออกแบบจัดการกิจกรรมต่าง ๆ และเป็นเพื่อนที่เด็กไว้ใจเพื่อชักชวนเขาไปเรียนสิ่งใหม่ในเวลาเดียวกัน “ปีที่แล้วเป็นปีแรกที่เด็กกลับมาเรียนหลังจากเรียนออนไลน์เพราะโควิด-19  หลายคนก็ยังไม่รู้ว่าต้องปฏิบัติตัวยังไง  เราพบว่าเด็กบางคนไม่กล้าเข้าไปพูดคุยขอคำปรึกษากับครูประจำชั้น...

เชื่อมครูรุ่นใหม่กับครูใกล้เกษียณ

“แต่ก่อนโรงเรียนบ้านกาเนะเป็นเสมือนที่พักพิงของครูวัยเกษียณ”  อรุนา ตาเดอิน ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านกาเนะ จังหวัดสตูล เล่าให้ฟังถึงวิถีชีวิตในอดีตของครูก่อนที่เธอจะมาเป็นผู้อำนวยการ ซึ่งปัจจุบันเข้าปีที่ 5 แล้ว “มาถึงเดือนแรกตกใจเลย พอบ่ายสามครึ่ง นักเรียนกลับบ้าน คุณครูก็หิ้วกระเป๋าลงตามนักเรียนมา พอเข้าแถวเสร็จ นักเรียนกลับบ้าน คุณครูก็เอารถออกแล้วกลับบ้านเลย เราไม่พูดอะไร เพราะมาสังเกตและศึกษาเรียนรู้ว่าจะปรับตัวให้เข้ากับที่นี่ยังไง” ผ่านไป 3 เดือนกับการพยายามปรับตัว...