Korkankru

รายงานการสังเคราะห์โครงการวิจัยมายาคติทางการศึกษาในสังคมไทย

รายงานการสังเคราะห์ภาพรวมมายาคติทางการศึกษาในสังคมไทย มีเป้าหมายที่จะสังเคราะห์ข้อค้นพบจากชุดโครงการวิจัยการสำรวจและรื้อถอนมายาคติทางการทางศึกษาในสังคมไทย 5 โครงการ ที่ประกอบด้วย “ทักษะแห่งศตวรรษที่21” “เพศ” “ความเสมอภาคทางการศึกษา” “ความสำเร็จของผู้เรียน” และ “การจัดการในชั้นเรียนและการลงโทษ” โดยมุ่งเน้นไปที่การสำรวจชุดความคิด ความเชื่อ และคุณค่าที่ประกอบสร้างขึ้นเป็นมายาคติทางการศึกษาในด้านต่างๆ ที่ส่งอิทธิพลต่อการกำกับและควบคุมความคิด ความรู้สึก ตลอดจนพฤติกรรมของผู้เกี่ยวข้องในระบบนิเวศการศึกษา รวมทั้งศึกษาประสบการณ์และความคิดเห็นของนักเรียนและครูอาจารย์ที่มีต่อประเด็นทางการศึกษาในด้านต่างๆ เพื่อวิเคราะห์ให้เห็นถึงความซับซ้อนของการยึดถือหรือการต่อต้านวาทกรรมต่างๆ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาวะของปัจเจกบุคคลทั้งทางตรงและทางอ้อม        ...

ภัสรัญ สระทองนวล: “วิชาใจ สำคัญไม่น้อยกว่าวิชาการ”

เริ่มต้นจากการเป็นครูแนะแนวไฟแรง งัดทุกกลวิชามาถ่ายทอดสู่นักเรียน เป็นครูที่เด็กๆ วิ่งเข้าหา ด้วยท่าทีเป็นกันเอง เปิดเผย รับฟัง  ทำให้ในเวลาไม่นานนัก ครูแก้ว - ภัสรัญ สระทองนวล ครูแนะแนวแห่งโรงเรียนกำแพงแสนวิทยา ก็กลายเป็นขวัญใจของเด็กๆ โดยปริยาย งานสอนไม่บกพร่อง งานกิจกรรมก็ไม่แพ้กัน  ครูแก้วปลุกปั้นทีมวอลเล่ย์บอลโรงเรียนในฐานะโค้ชครั้งแรก ก็หอบรางวัลที่ 3 ของจังหวัดมาประดับโรงเรียน...

กริยาสามช่องของการศึกษา: อดีตที่เคยชิน ปัจจุบันอันเจ็บปวด และอนาคตที่ใฝ่ฝัน

กล่าวกันอย่างถึงที่สุด ‘ครู’ ไม่ใช่อาชีพอันพึงปรารถนาในประเทศนี้อีกต่อไปแล้ว นับกันแค่ช่วงสองถึงสามปีที่ผ่านมา พาดหัวข่าว ‘ครูประกาศลาออก’ ปรากฏขึ้นเป็นระยะๆ การลาออกไม่ใช่เรื่องแปลก แต่เหตุผลของการเลือกที่จะลาออกจากอาชีพที่ใครหลายคนบากบั่นร่ำเรียนมาถึง 4 ปี หรือมากกว่านั้นนี่สิน่าสนใจ ว่านอกจากจะสะท้อนโครงสร้างของระบบการศึกษาของประเทศได้เป็นอย่างดีแล้ว ยังสะท้อนถึงชีวิตความเป็นอยู่ของนักเรียนและบุคลากรทางการศึกษา ไปจนถึงทำนายอนาคตของประเทศจากปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นได้ไม่น้อยก็มาก ‘ภาระงานของครูที่มากเกินไป, ค่าตอบแทนที่น้อยเกินไป, ระบบที่ขาดความเข้าใจในสิทธิและสวัสดิภาพในการทำงาน, ครูถูกผลักให้ต้องรับผิดชอบปัญหาที่เกิดขึ้น, อำนาจรวมศูนย์ โรงเรียนไม่มีอำนาจในการตัดสินใจ,...

เปิดรับสมัครโครงการก่อการครู “ครูบันดาลใจ จุดไฟการเรียนรู้” รุ่นที่ 4

วิกฤตการศึกษา ที่มาของ “ ก่อการครู ” การพัฒนาการศึกษาเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญของการสร้างการเปลี่ยนแปลงทางสังคมในระดับรากฐาน สังคมไทยได้ฝากความหวังต่ออนาคตของประเทศไว้ที่การศึกษาในฐานะที่เป็นระบบหลักในการพัฒนาศักยภาพของพลเมืองให้มีคุณภาพ  แม้ในช่วงสิบปีที่ผ่านมาสังคมไทยได้มีการพยายามปฏิรูปการศึกษาในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นความพยายามในการกระจายอำนาจและทรัพยากรในการจัดการศึกษาไปยังภาคส่วนต่าง ๆ การพยายามลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพ การเปิดโอกาสให้มีระบบการศึกษาทางเลือกใหม่ ๆ เพื่อแก้ปัญหา การพยายามผลักดันให้เกิดชุมชนวิชาชีพ (Professional Learning Community - PLC) แต่กระนั้นก็ดูเหมือนว่าการศึกษาของไทยยังคงเป็นความทุกข์ของสังคม...

‘มหาลัยนัยหลืบ’ หลักสูตรของเด็กช่างฝัน

“หมุนวงล้อการเรียนรู้ กับ ครูสายปั่น” บทที่ 2 เรื่องเล่าจากการเดินทางของเราครั้งนี้ เป็นช่วงเวลาที่ผมและทีมงานก่อการครูได้ขับเคลื่อนกิจกรรมรถพุ่มพวง ชวนเรียนรู้ ณ กาฬสินธุ์ ทดลองให้เด็ก ๆ ได้เรียนรู้ผ่านบริบทชุมชนของตนเอง แล้วให้ผู้เรียนค้นหาประเด็นที่พวกเขาสนใจในชุมชน จำได้ว่ามีนักเรียน ม.ปลาย คนหนึ่ง สนใจเรื่อง ดินธรรมดา ๆ แต่มาถึงตอนนี้ ดินในวันนั้นได้เปลี่ยนคน ๆ หนึ่ง ไปไกลกว่าที่ผมคิด...

“เพราะความฮู้มีอยู่สุเเก” | รู้จัก มหา’ลัยไทบ้าน #เรียนรู้ดูทำ

การเรียนรู้เกิดขึ้นที่ไหนได้บ้าง? ในยุคที่การศึกษาเปลี่ยนผันตามความเปลี่ยนแปลง โรงเรียนและมหาวิทยาลัยในระบบปัจจุบัน อัดฉีดความรู้ได้เพียงพอไหม “ความฮู้มีอยู่สุเเก” เสียงนักเรียนรู้ ‘มหาลัยไทบ้าน’ ดังก้อง สื่อความภาษาอีสานเป็นคำตอบบนความเชื่อว่า “ความรู้มีอยู่ทุกที่” และตอนนี้พวกเขาได้สร้างพื้นที่แห่งการเรียนรู้เพื่อแชร์ภาพฝันให้ชัดเจนขึ้นใน อ.สีชมพู อ.ภูผาม่าน จ.ขอนแก่น และ อ.ภูกระดึง จ.เลย The Active x ก่อการครู ชวนทำความรู้จัก ‘มหาลัยไทบ้าน’ เพื่อขยายความคำตอบจากหลักสูตรการศึกษาที่หาไม่ได้จากมหาวิทยาลัยในระบบ ผ่านอัลบั้มภาพชุด “เพราะความฮู้มีอยู่สุเเก : รู้จักมหา’ลัยไทบ้าน เรียนรู้ดูทำ” รวมเรื่องราวให้ร่วมเรียนรู้เหมือนเข้าไปอยู่ด้วยกัน รับน้องใหม่ มหา’ลัยไทบ้าน ในวันหยุดยาวต้นธันวาคม 2564 ลมหนาวภาคอีสานกระหน่ำพัดให้ชวนขนลุกเป็นระยะ ความอบอุ่นค่อย ๆ ยังขึ้นในช่วงสายจากแสงแดดและผู้คนที่เดินทางมาพบกัน เราอยู่ที่ ‘ยายตา at home’ โฮมสเตย์ใน ต.ดงลาน อ.สีชมพู จ.ขอนแก่น ของคนรุ่นใหม่ที่หวนกลับบ้านมาทำให้ทุ่งนาธรรมดาไกลเมืองของคนรุ่นพ่อแม่ กลายเป็นจุดเช็กอินของคนรุ่นตัวเอง ด้วยการขยับขยายจากบ้านรับแขกเป็นบ้านพักนักท่องเที่ยวซึ่งโปรโมทกันภายใต้ชื่อ “เที่ยววิถีสีชมพู” การท่องเที่ยวโดยชุมชนจากพลังหนุ่มสาวคืนถิ่นที่ช่วยกันทำ 2 ปีมานี้ วันนี้ ‘ยายตา at home’ เป็นหมุดหมายของนักเรียนรู้ที่สมัครเข้าเรียน ‘มหาลัยไทบ้าน’ ปี 1 ลานโล่งด้านหน้าโฮมสเตย์ มีนิทรรศการและผลงานศิลปะฝีมือพวกเขาบางส่วนวางจัดแสดง ฉายให้เห็นที่เที่ยวและบ่งบอกเชิงสัญลักษณ์เรื่องการศึกษา หลังจากเมื่อเมษายนที่ผ่านมา ‘ยายตา at home’ ได้รวมผู้คนซึ่งใช้ชื่อว่า “ก่อการครู 3 ภูพลัส” ทำภารกิจสร้างครูเป็นตัวคูณเคลื่อนสังคมผ่านแนวคิดขยายพื้นที่การเรียนรู้จากห้องเรียนไปสู่ชุมชน ทำความรู้จัก “ก่อการครู 3 ภูพลัส” บทที่ 1 ไทมุง ความสัมพันธ์ “ต้อนรับทุกท่านเข้าสู่การเปิดมหาลัยของพวกเราอย่างเป็นทางการ การมาของพวกท่านวันนี้มีความหมายมาก เพราะถือว่ามาเป็นประจักษ์พยานในการริเริ่มอะไรใหม่ ๆ ด้วยกัน เราเชื่อเรื่องการศึกษาว่าทุกคนสามารถมีอำนาจลุกขึ้นมาทำอะไรสร้างสรรค์ในบ้านตัวเองได้ โดยเฉพาะเรื่องการศึกษาเพื่อความเป็นไท”...

ครูก่อการปั่น สังเกตกายใจ เห็นอะไรที่ซ่อนอยู่

“หมุนวงล้อการเรียนรู้ กับ ครูสายปั่น” บทที่ 1 ถ้าพูดถึง กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ผมคิดว่าหลาย ๆ คน คงจะนึกถึงกิจกรรมที่มีอยู่ในหลักสูตรของโรงเรียน กิจกรรมแนะแนว กิจกรรมนักเรียน กิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ แล้ว ปั่นจักรยาน มันเป็นกิจกรรมส่วนไหนของการศึกษาในระบบ มีอะไรซ่อนอยู่ ผมขอชวนผู้อ่านจินตนาการว่ากำลังนั่งบนเบาะ แล้วปั่นจักรยานไปพร้อมกับเรา “จักรยาน” กิจกรรมทางเลือกโรงเรียนในระบบ   สวัสดีครับ ผม ครูตู้...

“กาฬสินธุ์ศึกษา” ปลายฝันชุมชนแห่งการเรียนรู้

“ครู” ที่อยากเชื่อมโยงทรัพยากรเข้ากับชีวิตผู้เรียน มีคนกล่าวว่า “กาฬสินธุ์นี้ดินดำน้ำซุ่ม” ออกเสียงสำเนียงอีสาน สื่อถึงชื่อเสียงเรื่องความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในจังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งยึดเกี่ยวไว้กับอาชีพเกษตรกรรมและการประมงพื้นบ้านของผู้คนที่มีมานาน ถึงแม้ในบริบทความเป็นชุมชน “ดินดำ น้ำซุ่ม” จะมีเรื่องราวของความร่มเย็น แต่หากมองไปยังความภาคภูมิใจของคนแถบนี้ อาจจัดได้ว่าเด็กรุ่นใหม่ไม่ค่อยมองเห็นศักยภาพ และความง่ายงามของทรัพยากรที่พวกเขามี สำหรับ ครูสราวุฒิ พลตื้อ หรือ ครูตู้ ผู้มีบุคลิกไม่ยอมหยุดนิ่งกับการออกแบบกระบวนการเรียนรู้ ย่อมอยากสร้างการเปลี่ยนแปลงผ่านเครื่องมือที่เขาถนัด นั่นคือ “การศึกษา” ก้าวครูกล้าเปลี่ยน หากเจอนอกรั้วโรงเรียนก็อาจจะแยกได้ยากว่าชายคนนี้มีอาชีพอะไร ในบรรยากาศทั่วไปเขามักสวมเสื้อยืดธรรมดา ไม่ก็เสื้อเชิ้ตแขนยาวเรียบง่ายในกิจกรรมที่ต้องพบปะผู้คน เป็นคนพูดคุยด้วยคำที่มีแง่คิดราวกับเคยเป็นนักบวช เราอาจทายว่าเขาคือศิลปิน แต่จริง...

การศึกษาความเป็น “ไท” โดยเหล่าครูก่อการและหนุ่มสาวไทบ้าน

“การศึกษา” ที่เราเชื่อ คือ “การศึกษา” ที่ทำให้เรามีทักษะและความรู้ สามารถทำให้เราอยู่รอดได้ แล้วต้องทำให้เราอยู่ร่วมกับผู้อื่นและสิ่งแวดล้อมได้อย่างสันติสุข มากกว่านั้นคือ อยู่อย่างมีความหมาย อยู่อย่างสร้างสรรค์ มีส่วนร่วม กล้าที่จะตั้งคำถามกับปัญหาที่พบเจอ กล้าที่จะลงมือทำ กล้าที่จะแตกต่าง กล้าที่นำ เพื่อแก้ปัญหาหรือสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นต่อส่วนรวม ปัจจัยที่จะทำให้ภาพของ “การศึกษา” ที่เราเชื่อเกิดขึ้นได้ เริ่มต้นจากทัศนคติที่มองเห็นระบบนิเวศของการเรียนรู้ที่เชื่อมโยงกันเป็นองค์รวม ไม่ได้แยกส่วนจากกันเหมือนกับระบบการศึกษาไทยในปัจจุบัน ที่ยังขาดการบูรณการ ตั้งแต่โครงสร้างที่แยกเป็นวิชา แยกเป็นชั้นเรียน แยกระดับการเรียนเป็นเกรด ประเมินการเรียนรู้หรือศักยภาพผู้เรียนที่ถูกตัดสินจากมุมมองหรือหลักเกณฑ์ที่ไม่หลากหลาย...

เช็กฮวงจุ้ยการศึกษาไทย ในวันที่หลักสูตรเปลี่ยนชื่อเรียก

Jan 5, 2022 บทความ 0 Comments 2 min

หลายคนเชื่อว่า “การเปลี่ยนชื่อ” จะหนุนนำให้หลายอย่างเปลี่ยนในทางดีขึ้น แม้แต่ “Facebook” ยังเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น “Meta” เพื่อยกระดับบริการที่ให้ความสำคัญกับโลกเสมือนจริง ทว่าการเปลี่ยนชื่อหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน จาก “หลักสูตรแกนกลาง” เป็น “หลักสูตรฐานสมรรถนะ” จะหนุนนำนักเรียนเราให้ดีขึ้นเหมือนกันไหม เมื่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการไทย ประกาศกับสังคมว่ากำลังพัฒนาคุณภาพการศึกษาด้วยหลักสูตรที่สนับสนุนความถนัดและความสนใจผู้เรียนเป็นรายคน สนทนากับ ‘รศ.อนุชาติ พวงสำลี’ คณบดีคณะวิทยาการเรียนรู้และศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่ไม่ใช่สายมูเตลู แต่นับเวลาที่อยู่ในแวดวงการเรียนรู้ ก็พอพยากรณ์ได้ว่าอนาคตนักเรียนไทยจะเป็นแบบไหนในวันที่ “หลักสูตรการศึกษาเปลี่ยนชื่อเรียก”   1. เปลี่ยนชื่ออย่างเดียวไม่ปัง ต้องเปลี่ยนความเชื่อเรื่องการศึกษา หากเปรียบการเปลี่ยนหลักสูตรกับความเชื่อ วันนี้กระทรวงศึกษาธิการเชื่อว่าหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานแบบเดิมที่ให้ความรู้ตามมาตรฐาน 8 สาระวิชา ไม่ทันสมัยกับความสนใจใคร่รู้ของผู้เรียนอีกต่อไปแล้ว และการแก้เคล็ดคือเปลี่ยนไปเป็นหลักสูตรฐานสมรรถนะที่เน้นเรียนรู้แบบสร้างทักษะเพื่อทำให้ภาพการศึกษาไทยเปลี่ยนในทางที่ดีกว่าเดิม เรื่องนี้ ‘รศ.อนุชาติ’ มองว่าแก้ปัญหาถูกทาง แต่ยังไม่ครบเครื่อง...