ก่อการครู – Korkankru

คลังความรู้ โครงการพัฒนานิเวศการเรียนรู้เชื่อมครูและศิษย์ฯ

ห้องเรียนสีชมพู จังหวัดขอนแก่น: การเรียนรู้ที่ใช้ป่า ภูเขา ลำธาร เป็นตำรา เรียนได้ทุกวิชารวมถึงวิชารู้จักตัวเอง

Jan 25, 2025 3 min

ห้องเรียนสีชมพู จังหวัดขอนแก่น: การเรียนรู้ที่ใช้ป่า ภูเขา ลำธาร เป็นตำรา เรียนได้ทุกวิชารวมถึงวิชารู้จักตัวเอง

Reading Time: 3 minutes

หากพูดถึงพื้นที่เรียนรู้ของนักเรียน แน่นอนว่าหลายคนคงนึกถึงห้องเรียน หรือบริเวณโรงเรียน

โดยเฉพาะที่อำเภอสีชมพู หรืออำเภอภูผาม่าน จังหวัดขอนแก่น พื้นที่ห่างไกลจากตัวเมืองขอนแก่นกว่าร้อยกิโลเมตร เราจะจินตนาการถึงการเรียนรู้ของเด็กทั้งในและนอกระบบการศึกษาว่าอย่างไรกัน

หรือหากพูดถึงพื้นที่เรียนรู้ของผู้ใหญ่ วัยชรา เราจินตนาการว่าห้องเรียนของเขาหน้าตาเป็นแบบไหน

สอญอ-สัญญา มัครินทร์ อดีตครูในระบบที่ยังคงมีไฟเรื่องบ้านเมืองและการเรียนรู้ นุ-อนุวัตร บับภาวะตา ผู้ที่เกิดและเติบโตที่นี่ กับประสบการณ์ทำงาน อบต. พี่อิ๋ว-เพลินจิตร เวชวงศ์ เจ้าของธุรกิจส่วนตัว ขายวัสดุก่อสร้าง อีฟ-วรรณศิริ สีนามบุรี เจ้าของไร่ภัทราวรินทร์เปลี่ยนการทำเกษตรเชิงเดี่ยวเป็นเกษตรเพื่อการท่องเที่ยว ต้น-ธนวัฒน์ เดชขันธ์ ผู้ยึดอาชีพเกษตรกรที่อำเภอสีชมพู เกมส์อุทิศ จอดนอก ผู้ที่สนใจเรื่องการสำรวจ เดินป่า ครูทอม-ขวัญยืน เกตุหนู ครูศิลปะที่ลาออกมาเป็นศิลปิน และมิ้ว-ขวัญนภา หอมโสภา ผู้ที่เรียนจบและสนใจเรื่องการท่องเที่ยว พวกเขามารวมตัวกันก่อตั้ง มหา’ลัยไทบ้าน เพื่อสร้างพื้นที่เรียนรู้ดี ๆ ที่ตอบโจทย์เด็ก ๆ และคนหลากอายุในชุมชน

“การเรียนรู้เกิดขึ้นได้จากทุกพื้นที่ สิ่งแวดล้อมและพื้นที่ต่าง ๆ ในชุมชนคือทรัพยากรการเรียนรู้ชั้นดี และนักเรียนรวมถึงคนในชุมชนเองสามารถสร้างห้องเรียนแห่งความสุขในแบบฉบับของตัวเองได้” คือความเชื่อที่ทุกคนมีร่วมกัน จึงรวมตัวกันสร้างพื้นที่เรียนรู้นี้ขึ้นที่อำเภอสีชมพู ในจังหวัดขอนแก่น

ด้วยหวังว่าจะทำให้การเรียนรู้เป็นเรื่องเดียวกับชีวิต เป็นวิถี เป็นปกติ ทรงพลัง ไม่แปลกแยก และมีคุณค่ากับชีวิต

ฝันของมหา’ลัยไทบ้านและเครือข่าย

สำหรับชาวมหา’ลัยไทบ้าน เรื่องการเรียนรู้ การศึกษา เป็นสิ่งที่ทุกคนสนใจ แต่สิ่งที่ติดอยู่ในใจคือทำอย่างไรที่การเรียนรู้ของเด็ก ๆ จะตรงกับความสนใจของเขาและเป็นการเรียนรู้ที่มีประโยชน์กับชีวิตเขาได้จริง ๆ 

เมื่อกลับมาดูทรัพยากรธรรมชาติที่อำเภอสีชมพู ความสมบูรณ์ของพื้นที่ที่มทั้งน้ำตก ภูเขาหินปูนที่มีภาพเขียนสีประวัติศาสตร์ ถ้ำ และพื้นที่แหล่งต้นน้ำหรือป่าน้ำซับซึม นี่เองทำให้มหา’ลัยไทบ้านคิดจะสร้างห้องเรียนธรรมชาติและชุมชนที่อำเภอสีชมพูและอำเภอภูผาม่าน จังหวัดขอนแก่น

‘ใช้พื้นที่ ธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม ศิลปะ วัฒนธรรม หรือทรัพยากรอื่น ๆ ในชุมชน มาใช้จัดการเรียนรู้สำหรับนักเรียนทั้งในและนอกระบบ ครู ผู้ใหญ่ วัยชรา เพื่อเรียนรู้เรื่องต่าง ๆ ทั้งสังคม สิ่งแวดล้อม ฯลฯ หรือแม่กระทั่งการรู้จักตัวเอง

เป็นการเรียนรู้ที่สนุก มีความหมาย เข้มแข็ง และมีพลัง

และพื้นที่เดียวกันนี้เองที่จะเป็นห้องเรียนของคุณครู ที่จะได้เฝ้าดูและเรียนรู้ร่วมกันว่าห้องเรียนเพื่อการเรียนรู้หน้าตาเป็นอย่างไร สร้างอย่างไร แล้วหยิบมุมมอง วิธีการ และพลังใจกลับไปทำที่โรงเรียน

เรียกได้ว่าทุกคนที่มาเรียนรู้ในพื้นที่นี้จะกลับไปจัดการเรียนรู้ที่มีชีวิตในพื้นที่ของตัวเองได้ และเป็นเครือข่ายกันเพื่อพัฒนาการศึกษาของพื้นที่’ นี่คือฝันของมหา’ลัยไทบ้านและเครือข่าย เพื่อท้ายที่สุดแล้ว เขาหวังว่าการเป็นเมืองแห่งการเรียนรู้ จะค่อย ๆ ก่อตัวและเกิดขึ้นได้ด้วยมือของทุกคน

ห้องเรียนของครูในระบบ เจาะจุดคานงัดพัฒนาการศึกษา

นอกจากในชุมชนแล้ว ในปีนี้มหา’ลัยไทบ้าน เปิดพื้นที่ให้ครูและนักเรียนในโรงเรียนจาก 5 อําเภอ ในจังหวัดขอนแก่นเข้าร่วม ด้านหนึ่งคือสร้างพื้นที่เรียนรู้สำหรับเด็กและเยาวชน อีกด้านหนึ่งคือ พื้นที่นี้จะเป็นพื้นที่ที่ชวนครูใน 5 อำเภอนี้มาเข้าร่วม เห็นตัวอย่างการจัดการเรียนรู้จากพื้นที่ในชุมชน เพื่อหวังว่าครูจะกลับไปสร้างการเปลี่ยนแปลงกับห้องเรียนของตัวเองที่โรงเรียน

ดังนั้นห้องเรียนแรกที่มหา’ลัยไทบ้านจัดขึ้นคือ ห้องเรียนสำหรับครู ชวนคุณครูมาถอดรหัสและเรียนรู้การสร้างสรรค์พื้นที่เรียนรู้ห้องเรียนแห่งความสุข ความเชื่อเบื้องหลังของการจัดกระบวนการเรียนรู้ หลักการออกแบบและสร้างประสบการณ์การเรียนรู้ให้ผู้เรียนด้วยกรอบคิดการจัดการเรียนรู้ที่เชื่อมโยงกับโลกจริง หรือ Authentic Learning ที่ให้ผู้เรียนได้เรียนรู้เรื่องต่าง ๆ ที่สอดคล้องกับชีวิตจริง และการออกแบบการเรียนรู้ที่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงด้วยเส้นโค้งการเรียนรู้ (Learning Curve)

ห้องเรียนธรรมชาติและชุมชน

จากนั้น ห้องเรียนธรรมชาติและชุมชนจึงเกิดขึ้น โดยใช้พื้นที่ป่าดงลาน ซึ่งเป็นป่าต้นน้ำ ภูเขา ภาพเขียนสี ผาแต้ม แหล่งน้ำซับซึมบ้านซำขาม เรียนรู้หินสีตามน้ำตกดอยนาง ฯลฯ ทีมงานเล่าว่าพื้นที่เรียนรู้ที่มหา’ลัยไทบ้านสร้างขึ้นเรียกรวม ๆ ว่า ห้องเรียนธรรมชาติและชุมชน ซึ่งภายใต้คำนี้มีหลายความหมาย (Meaning) ที่ซ่อนอยู่ ความหมายแรกคือห้องเรียนนี้เกิดขึ้นโดยใช้พื้นที่ต่าง ๆ รวมถึงธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมาจัดการเรียนรู้  ความหมายที่สอง คือ คนในชุมชนเจ้าของพื้นที่มีส่วนในการเป็นคนจัดการเรียนรู้ ความหมายที่สามคือ ห้องเรียนนี้เป็นพื้นที่ที่นักเรียน เด็ก เยาวชน ได้เข้ามาเรียนรู้ ที่ไม่เพียงทำกิจกรรม แต่ได้ค้นหาความสนใจ จนอาจนำไปสู่อาชีพและรายได้ รวมถึงคนทั่วไป ครู มาเรียนรู้ร่วมกับเด็ก และอาจนำไปสู่การสร้างการรับรู้และแก้ปัญหาในชุมชนร่วมกัน

“เราอยากเห็นการไปข้างหน้าแบบไม่แยกส่วน การศึกษา ชุมชน สิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ ควรเป็นองค์รวมที่ผู้เรียน ครู คนในชุมชน ล้วนเป็นส่วนหนึ่งของกันและกัน ทุกตัวละครมาเจอกันเพื่อมองเห็นปัญหาและหาทางออกร่วมกันอย่างยั่งยืน” สอญอ หนึ่งในผู้ก่อตั้งมหา’ลัยไทบ้านพูดถึงการสร้างพื้นที่เรียนรู้ในชุมชน

“ทุกพื้นที่เป็นพื้นที่เรียนรู้ได้ ทุกคนเป็นครูได้ไม่ว่าเด็ก ผู้ใหญ่ หรือผู้สูงอายุ เพราะการได้มาสอนก็เป็นกระบวนการเติบโตของคนสอนด้วยเช่นกัน ในขณะที่คนเรียนก็เป็นไปได้ตั้งแต่วัยประถมศึกษา จนถึงคนวัยเกษียณ หากห้องเรียนนั้น ๆ มีความรู้ที่ตอบโจทย์ชีวิตเขาก็สามารถสมัครเข้ามา เพราะห้องเรียนเน้นการเรียนที่ได้ใช้และเป็นประโยชน์กับชีวิต อยากให้พื้นที่ตรงนี้เป็นโรงเรียนในชีวิตจริง รวมถึงคนเรียนที่แตกต่างหลากหลายวัยจะได้เรียนจากกันและกันด้วย” อีฟ ให้ภาพรวมของห้องเรียนห้องเรียนธรรมชาติและชุมชน

ในปีนี้มหา’ลัยไทบ้านจัดกิจกรรมพานักเรียนและครู 5 โรงเรียน คือโรงเรียนบ้านวังขอนแดงหนองหญ้าปล้อง โรงเรียนสีชมพูศึกษา โรงเรียนหนองตาไก้ศึกษา โรงเรียนภูเวียงวิทยาคม และโรงเรียนชุมชนบ้านผานกเค้ารวมถึงเปิดโอกาสให้บุคคลทั่วไปเข้าร่วมเรียนรู้ด้วยเช่นกัน ตัวอย่างห้องเรียน เช่น ห้องเรียนสร้างรายได้จากภาพถ่าย สำหรับประชาชนทั่วไปมาเรียนรู้การถ่ายภาพเล่าเรื่อง รวมถึงรู้จักเครื่องมือในการสร้างรายได้จากภาพถ่าย โดยครูก็อต อภิวัฒน์ เครือข่ายของมหา’ลัยไทบ้าน ห้องเรียนทำไม้ ทำไม ? โดยเอริธและคิว เยาวรุ่น จากมหา’ลัยนัยหลืบ จังหวัดกาฬสินธุ์ ครูโทนแห่งโรงเรียนกุดรัง พี่ประเชิญ จากประเชิญยิ้มสตูดิโอ และเครือข่ายพันธมิตรของมหา’ลัยไทบ้าน สำหรับครู นักเรียน และบุคคลทั่วไป มาเดินป่าเพื่อทําความรู้จักไผ่หลากชนิดบนผาสามยอด เชื่อมโยงตนเองกับไม้ชนิดต่าง ๆ ในป่า ฝึกทักษะการทํางานไม้รูปแบบต่าง ๆ ที่สามารถสร้างรายได้ เช่น ตั่ง เก้ากี้ ป้าย ควบคู่กับสร้างความเข้าใจวิถีชุมชน ห้องเรียนตามรอยอารยธรรม 3,000 ปี ณ ผาแต้มวสุพล และผาช้าง ตำบลดงลาน เกมส์-อุทิศ จอดนอก และมิ้ว-ขวัญนภา หอมโสภา แห่งมหา’ลัยไทบ้าน ชวนครูและนักเรียน ทําความรู้จักพื้นที่อําเภอสีชมพูและแนะนําองค์ความรู้เกี่ยวกับศิลปะถ้ำโดยปราชญ์ชุมชน เรียนรู้ประวัติศาสตร์และสถานการณ์การต่อสู้เพื่อป้องกันการเข้ามาทําอุตสาหกรรมจากนายทุนที่อาจนําไปสู่การทําลายสิ่งแวดล้อมในชุมชน และทํางานศิลปะเชื่อมโยงกับภาพเขียนสีโบราณที่ลําธารในชุมชน ห้องเรียนเล่นกับศิลปะและธรรมชาติผ่านการเดินป่าระยะสั้น สํารวจธรรมชาติ ทําความรู้จักใบไม้ชนิดต่าง ๆ ที่อยู่ใกล้ตัวเรา สำหรับครู นักเรียน ประชาชนทั่วไป ณ สถานีวนวัตวิจัยดงลาน สถานีวนวัตวิจัยผานกเค้า และอาศรมมรรคง่าย ห้องเรียนศิลปะ (ถ้ำ) ขับเคลื่อนชุมชน สำหรับครู นักเรียน ประชาชนทั่วไป เรียนรู้คุณค่าของธรรมชาติ โบราณคดีและสิ่งแวดล้อมในชุมชน ผ่านการบรรยายและกิจกรรมเดินป่าระยะสั้น ชมภาพเขียนสีโบราณ บริเวณผาวัวแดง ผาช้าง รวมถึงหลักสูตรชนบทดิจิทัล ที่ชวนเรียนรู้เครื่องมือดิจิทัล ทั้งแคนวา และ AI

เปิดมหา’ลัยในชุมชน

เพื่อตอกย้ำการเรียนรู้บนฐานชุมชน มหา’ลัยไทบ้าน ได้เปิดห้องเรียนต่อเนื่อง 3 วันเต็ม ประกอบไปด้วย ไทมุง ชวนผู้เข้าร่วมมามุงดูว่าคนในชุมชนมีวิถีชีวิตอย่างไร และเชื่อแบบไหน มาเห็นว่าชุมชนนนี่เองคือแหล่งความรู้ชั้นดูมีความรู้ซ่อนอยู่มากมาย ไททำ ลงมือทำผลิตภัณฑ์ชุมชนแบบสนุก ๆ กับคนในชุมชน ทั้งงานคราฟท์ งานสวน ไททอล์ก ฟังแรงบันดาลใจและทักษะชีวิต จากผู้ร่วมเสวนาตั้งแต่ ป.5 ถึงผู้เฒ่าผู้แก่ในชุมชน ไททริป สำรวจธรรมชาติและบ้านเรือนในชุมชน เข้าป่า เดินสวน เล่นน้ำลำธาร เรียนรู้ธรรมชาติที่เป็นวิถีชีวิตของชุมชน เป็นห้องเรียนที่ครู นักเรียน และบุคคลทั่วไปได้มาทำกิจกรรมอย่างเต็มอิ่ม รับแรงบันดาลใจ และเห็นภาพว่าห้องเรียนสร้างสรรค์ในชุมชนที่ได้เรียนรู้และปลุกพลังคนในชุมชนเป็นไปได้อย่างไร

เสริมพลังครู 3 ภูพลัส เมื่อพื้นที่เรียนรู้สร้างสรรค์คืบคลานสู่โรงเรียน

การเปิดห้องเรียนของมหา’ลัยไทบ้านที่เริ่มต้นอยากจัดการเรียนรู้ให้เด็ก ๆ ได้โอกาสเรียนในสิ่งที่เขาชอบ และได้เรียนรู้บ้านตัวเองและชวนครูมาเรียนรู้ร่วมกัน จน ณ ตอนนี้ เกิดพลังไปเปลี่ยนแปลงชุมชนและทรัพยากรธรรมชาติ ครูที่มาร่วมเรียนรู้กลับไปเปิดห้องเรียน เช่น ห้องเรียนขอนไม้ โรงเรียนภูเวียงวิทยาคม ทำโรงเรียนเป็นพื้นที่ปลอดภัยให้กับนักเรียนและกลุ่มที่สนใจโดยใช้คาบของตัวเอง มีกิจกรรมการเรียนรู้ตามความสนใจของนักเรียน เช่น ห้องเรียนควาย ๆ ห้องเรียนปลานามา ห้องเรียนขอนไม้คาเฟ่ ห้องเรียนมืด ห้องเรียนไก่ชน เป็นต้น

เรียกได้ว่าห้องเรียนสีชมพู และห้องเรียนในโรงเรียนต่าง ๆ ในจังหวัดขอนแก่น ค่อย ๆ ผลิบาน จัดการเรียนรู้ที่ตอบโจทย์เด็ก ๆ โดยใช้คน และทรัพยากรของพื้นที่ได้อย่างน่าสนใจ ซึ่งผู้อ่านสามารถติดตามความสร้างสรรค์ของพวกเขาได้ในเฟสบุ๊กเพจ ‘มหา’ลัยไทบ้าน’

หมายเหตุ

บทความนี้เป็นส่วนหนึ่งของ ‘โครงการพัฒนานิเวศการเรียนรู้เชื่อมครูและศิษย์ฯ สนับสนุนโดย คณะวิทยาการเรียนรู้และศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และโครงการทุนการศึกษา บริษัท กรุงไทยการไฟฟ้า จำกัด ที่ยินดีสนับสนุนให้ทุกพื้นที่ในชุมชนเป็นพื้นที่เรียนรู้ สามารถอ่านบทความฉบับเต็มได้ที่ https://korkankru.com/2024/12/20/areadevelopment/

ติดตามงานเครือข่ายได้ที่ 

เครือข่ายมหา’ลัยไทบ้าน

https://www.facebook.com/ThaibanUniversity

รับชมคลิปวิดีโอเสียงเมล็ดพันธุ์จากฤดูกาลเก็บเกี่ยว: มหา’ลัยไทบ้าน

https://youtube.com/shorts/qGdrXFjUfuw?feature=share

รับชมเรื่องราวในการขับเคลื่อนการศึกษาผ่านบทบาทที่แตกต่าง รวมถึงเสียงสะท้อนของทั้งผู้เรียนและครู เพื่อเป็นสิ่งที่พิสูจน์ว่าการเรียนรู้ที่เป็นไปได้นั้นได้เกิดขึ้นแล้วใน 3 พื้นที่แห่งนี้ ผ่านคลิปวิดีโอ Live and Learn | การเรียนรู้แบบนี้ที่เป็นไปได้ 

เรียบเรียงโดย อุบลวรรณ ปลื้มจิตร

Array